ศาลสูงสหรัฐได้ตัดสินให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหารอย่าง Nestlé USA และคาร์กิลล์ไม่สามารถฟ้องร้องเรื่องการเป็นทาสเด็กในฟาร์ม asia999 ในแอฟริกาจากแหล่งที่พวกเขาซื้อโกโก้ได้
ชายแอฟริกันหกคนกล่าวหาว่าพวกเขาถูกค้ามนุษย์จากมาลีและถูกบังคับให้ทำงานในฟาร์มโกโก้ในไอวอรี่โคสต์
กลุ่มกล่าวว่าทั้งสอง บริษัท ขยายเวลาการค้าทาสเพื่อให้ราคาโกโก้ต่ำ
ศาลตัดสิน 8-1 ว่ากลุ่มนี้ไม่มีที่ยืนเพราะการละเมิดเกิดขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา
แต่มันหยุดไม่เว้นจากการตัดสินที่แน่ชัดว่าพระราชบัญญัติการละเมิดของคนต่างด้าวซึ่งเป็นกฎหมายในศตวรรษที่ 18 สามารถใช้เพื่อให้ บริษัท เว็บพนันออนไลน์ สหรัฐรับผิดชอบต่อการละเมิดแรงงานที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทานในต่างประเทศหรือไม่
โกโก้ประมาณ 70% ของโลกผลิตในแอฟริกาตะวันตก และส่วนใหญ่ส่งออกไปยังอเมริกา
คาดว่าเด็ก 1.56 ล้านคนทำงานในฟาร์มโกโก้ในโกตดิวัวร์และกานา ตามรายงานที่เผยแพร่โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว
ในคดีความ กลุ่มชายกล่าวหาว่าพวกเขาถูกบังคับให้ทำงานในฟาร์มโกโก้เป็นเวลา 12-14 ชั่วโมงต่อวัน พวกเขายังกล่าวอีกว่า พวกเขาถูกเฝ้ายามติดอาวุธขณะนอนหลับ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาหลบหนี และได้รับค่าจ้างเพียงเล็กน้อยนอกเหนือจากค่าอาหารพื้นฐาน
ในขณะที่ประณามความเป็นทาสเด็ก บริษัทต่าง ๆ แย้งว่าควรทำคดีนี้แทนผู้ค้ามนุษย์และเกษตรกรที่ทำให้พวกเขาอยู่ในสภาพดังกล่าว
ในคำตัดสินที่เขียนโดย Justice Clarence Thomas ศาลตัดสินว่าในขณะที่ Nestlé USA และ Cargill จัดหาทรัพยากรทางเทคนิคและการเงินให้กับฟาร์ม แต่ไม่มีหลักฐานว่าการตัดสินใจทางธุรกิจในสหรัฐฯ นำไปสู่การบังคับใช้แรงงานของผู้ชาย
สำหรับนักเคลื่อนไหวที่ต่อสู้กับบริษัทช็อกโกแลตมาหลายปี คาสิโนออนไลน์ การพิจารณาคดีก็ล้มเหลว
เทอร์รี คอลลิงส์เวิร์ธ กรรมการบริหารของ International Rights Advocates ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Fortune ว่า "พวกเขาตัดสินใจเรื่องงบประมาณ ตัดสินใจในการวางแผน ในด้านธุรกิจ ทั้งหมดนี้ทำมาจากสหรัฐฯ"
นายคอลลิงส์เวิร์ธกล่าวว่าทีมกฎหมายของเขาจะยื่นฟ้องคดีใหม่ โดยอ้างว่าการตัดสินใจหลายครั้งของเนสท์เล่และคาร์กิลล์ในสหรัฐอเมริกาช่วยปูทางสำหรับการใช้ทาสเด็กในไอวอรี่โคสต์
ในถ้อยแถลง เนสท์เล่ สหรัฐอเมริกา ระบุว่า ไม่เคยทำงานเกี่ยวกับการใช้แรงงานเด็ก และยังคง “ไม่เปลี่ยนแปลงในการอุทิศตนเพื่อต่อสู้กับการใช้แรงงานเด็กในอุตสาหกรรมโกโก้”
Comments