การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: การผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลจะทะยานขึ้นในทศวรรษหน้า

การขุดถ่านหินในจีนเพิ่มขึ้นในปี 2564

แผนการของรัฐบาลในการสกัดเชื้อเพลิงฟอสซิลจนถึงปี 2030 ไม่สอดคล้องกับการรักษาอุณหภูมิโลกให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย สหประชาชาติกล่าว UNEP ผลิตรายงานช่องว่างประเทศพูดจะเจาะหรือเหมืองมากกว่าสองเท่าของระดับที่จำเป็นเพื่อให้เกณฑ์ 1.5C มีชีวิตอยู่

การกู้คืนน้ำมันและก๊าซคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีเพียงถ่านหินที่ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เว็บตรง มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตั้งแต่รายงานฉบับแรกเผยแพร่ในปี 2019ด้วยการประชุมสภาพภูมิอากาศ COP26 ที่อยู่ห่างออกไปเพียงหนึ่งสัปดาห์ มีการมุ่งเน้นอย่างมากเกี่ยวกับความทะเยอทะยานในการตัดคาร์บอนของตัวปล่อยที่ใหญ่ที่สุด แต่ถึงแม้จะมีเป้าหมายการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์สุทธิและคำมั่นสัญญาที่เพิ่มขึ้นของหลายประเทศ เว็บพนัน ผู้ผลิตน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินรายใหญ่ที่สุดบางแห่งยังไม่ได้วางแผนสำหรับการลดเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างรวดเร็วซึ่งนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าจำเป็นต้องจำกัดอุณหภูมิในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า .

เมื่อต้นปีนี้ นักวิจัยจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

(IPCC) ได้เตือนถึงอันตรายต่อมนุษยชาติจากการปล่อยให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียสในศตวรรษนี้ เพื่อให้อยู่ภายใต้เกณฑ์นี้จะต้องมีการลดการปล่อยคาร์บอนประมาณ 45% ภายในปี 2573 ตามระดับปี 2553

แต่แทนที่จะควบคุมคาร์บอน ประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดหลายแห่งก็กำลังวางแผนที่จะเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างมีนัยสำคัญ ตามข้อมูลของสหประชาชาติ

รายงานช่องว่างการผลิตพบว่าประเทศต่างๆ สล็อตออนไลน์ วางแผนที่จะผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลมากกว่า 110% เมื่อเทียบกับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1.5C ภายในสิ้นศตวรรษนี้ แผนนี้มากกว่าที่จำเป็นเพื่อรักษาอุณหภูมิให้สูงขึ้นถึง 2C ประมาณ 45% จากการศึกษาพบว่า การผลิตถ่านหินจะลดลง แต่ก๊าซจะเพิ่มขึ้นมากที่สุดในอีก 20 ปีข้างหน้า จนถึงระดับที่ไม่สอดคล้องกับข้อตกลงปารีส รายงานระบุ 15 ประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ ได้แก่ บาคาร่า ออสเตรเลีย รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร รัฐบาลส่วนใหญ่ยังคงให้การสนับสนุนนโยบายที่สำคัญสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล ผู้เขียนกล่าว

“เราต้องตัดด้วยมือทั้งสองข้างของกรรไกร เพื่อตอบสนองความต้องการและอุปทานของเชื้อเพลิงฟอสซิลพร้อมๆ กัน นั่นคือเหตุผลที่เราร่วมมือกับเดนมาร์กในการเป็นผู้นำในการก่อตั้ง Beyond Oil and Gas Alliance เพื่อยุติการขยายตัวของเชื้อเพลิงฟอสซิล การสกัด วางแผนการเปลี่ยนแปลงที่เป็นธรรมสำหรับคนงาน และเริ่มลดการผลิตที่มีอยู่ด้วยวิธีที่มีการจัดการ"